Browse By

Category Archives: ฟุตบอล

ราบิโอต์ เปิดใจเจ็บลึกโดนมาร์กเซยหักหลัง

คำให้สัมภาษณ์ของ อาเดรียง ราบิโอต์ (Adrien Rabiot) กองกลางทีมชาติฝรั่งเศสและนักเตะจากยูเวนตุส ที่ออกมาเปิดใจถึงความรู้สึก “เจ็บลึก” หลังถูกสโมสร โอลิมปิก มาร์กเซย หักหลังในช่วงเวลาที่เขาคาดหวังมากที่สุด เรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการฟุตบอลแดนน้ำหอมทันที เพราะราบิโอต์ถือเป็นนักเตะที่มีทั้งพรสวรรค์และความภาคภูมิใจในเส้นทางอาชีพของตน ราบิโอต์เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยมีการพูดคุยในเบื้องต้นกับฝ่ายบริหารของมาร์กเซยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการย้ายกลับไปเล่นในลีกเอิง ฝรั่งเศส หลังจากที่สัญญากับยูเวนตุสใกล้หมดลง และเขาต้องการพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ เพื่ออนาคตของตัวเอง ทั้งนี้เพราะราบิโอต์ยังคงมีความรู้สึกผูกพันกับฟุตบอลฝรั่งเศสและอยากกลับมาเล่นต่อหน้าครอบครัวและแฟนบอลบ้านเกิดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การเจรจาที่เริ่มต้นด้วยความหวังกลับจบลงด้วยความผิดหวังอย่างรุนแรง เมื่อมาร์กเซยกลับล้มเลิกความสนใจในตัวเขาแบบกะทันหันโดยไม่ให้เหตุผลที่ชัดเจน กองกลางเลือดปารีเซียงรายนี้กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “สิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกแย่ที่สุดไม่ใช่แค่การที่พวกเขาเปลี่ยนใจ แต่คือวิธีที่พวกเขาทำ ทุกอย่างดูเหมือนไม่ให้เกียรติผมเลย ผมเข้าใจว่าฟุตบอลคือธุรกิจ แต่บางครั้งมันก็ควรมีความเป็นมนุษย์อยู่บ้าง” คำพูดเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความผิดหวังอย่างแท้จริงจากชายที่เคยผ่านทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวในเส้นทางอาชีพ ราบิโอต์เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลอาชีพกับปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมคู่แข่งตลอดกาลของมาร์กเซย และใช้เวลาหลายปีสร้างชื่อเสียงในฐานะมิดฟิลด์เทคนิคสูง ก่อนจะย้ายไปยูเวนตุสในปี 2019 แบบไม่มีค่าตัว หลังจากหมดสัญญากับ PSG การย้ายครั้งนั้นสร้างแรงกระเพื่อมในวงการฟุตบอลฝรั่งเศส เพราะเขาเป็นลูกหม้อของสโมสรในเมืองหลวง แต่กลับเลือกออกจากบ้านเกิดเพื่อแสวงหาความท้าทายใหม่ในอิตาลี เขาใช้เวลาหลายฤดูกาลปรับตัวในกัลโช่

ไดช์ยังไม่สนใจรับงานร้อน เรนเจอร์ส

หนึ่งในเรื่องที่กำลังได้รับความสนใจในเวลานี้คือสถานการณ์ของ เรนเจอร์ส เอฟซี สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งสกอตแลนด์ ที่กำลังมองหาผู้จัดการทีมคนใหม่เข้ามากอบกู้สถานการณ์หลังผลงานในลีกเริ่มสั่นคลอน ล่าสุดมีข่าวลือหนาหูว่า ฌอน ไดช์ กุนซือชาวอังกฤษที่เพิ่งแยกทางกับเอฟเวอร์ตัน ถูกวางตัวให้เป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญของเรนเจอร์ส อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดยืนยันว่า ไดช์ยังไม่สนใจรับงานร้อนในถิ่นไอบร็อกซ์ สเตเดี้ยมในเวลานี้ อย่างไรก็ตาม ไดช์ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือดังกล่าวอย่างชัดเจน พร้อมระบุว่าในเวลานี้เขายังไม่มีความสนใจที่จะรับงานใหม่ใด ๆ ทั้งสิ้น แม้ว่าเรนเจอร์สจะเป็นสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีฐานแฟนบอลมหาศาลก็ตาม กุนซือวัย 53 ปีรายนี้ให้เหตุผลว่าตนเองยังคงต้องการเวลาพักผ่อน หลังจากผ่านช่วงเวลาที่เข้มข้นกับเอฟเวอร์ตัน ซึ่งต้องต่อสู้เพื่อความอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกแทบทุกสัปดาห์ ในแวดวงฟุตบอลอังกฤษ ไดช์เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะโค้ชที่มีสไตล์การทำทีมเน้นความแข็งแกร่ง วินัย และระบบการเล่นที่มั่นคง เขาใช้เวลาหลายปีสร้างชื่อกับเบิร์นลีย์จนกลายเป็นหนึ่งในทีมที่น่ากลัวที่สุดในพรีเมียร์ลีก แม้จะมีงบประมาณจำกัด แต่ไดช์สามารถพาทีมเล็กจากแลงคาเชียร์ยืนหยัดต่อกรกับบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ได้อย่างน่าชื่นชม และเคยพาเบิร์นลีย์ได้สิทธิ์ไปเล่นในศึกยูโรปาลีกอีกด้วย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของสโมสรขนาดเล็กในยุคนั้น ความสำเร็จนั้นทำให้ชื่อของไดช์ถูกพูดถึงอยู่เสมอเมื่อใดที่มีทีมในพรีเมียร์ลีกหรือแชมเปี้ยนชิพปลดผู้จัดการทีมออกจากตำแหน่ง แต่เจ้าตัวมักเลือกใช้เวลาไตร่ตรองอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจรับงานใหม่ นั่นสะท้อนถึงบุคลิกที่สุขุมและไม่หวั่นไหวไปตามกระแสข่าวในโลกฟุตบอล เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า “ผมเชื่อว่าการทำทีมฟุตบอลไม่ใช่เพียงการเข้าไปเปลี่ยนแท็กติกในสนามเท่านั้น แต่คือการสร้างวัฒนธรรม ความเชื่อ และแรงจูงใจให้กับนักเตะทั้งทีม” คาสิโน ufabet เว็บตรง

อาร์เซน่อล หารือเกี่ยวกับการขยายความจุสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา สโมสรฟุตบอล อาร์เซน่อล ถือเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในด้านการบริหารจัดการและการพัฒนาโครงสร้างสโมสร ทั้งในสนามและนอกสนาม จากทีมที่เคยมีบ้านหลังเก่าอย่างไฮบิวรี่มาเป็น “เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม” สนามเหย้าที่ทันสมัยและเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของวงการฟุตบอลอังกฤษ ล่าสุด มีรายงานว่า “เดอะกันเนอร์ส” ได้เริ่มต้นการหารือภายในเกี่ยวกับ แผนการขยายความจุของสนามเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อย่างเป็นทางการ เพื่อรองรับความต้องการของแฟนบอลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข่าวการขยายสนามครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะความสำเร็จในสนามของอาร์เซน่อลภายใต้การคุมทีมของมิเกล อาร์เตต้า ได้ปลุกพลังของแฟนบอลกลับมาอย่างมหาศาล หลังจากที่ทีมสามารถกลับมาลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างจริงจังในสองฤดูกาลหลังสุด และได้กลับไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อีกครั้ง ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของสโมสรหลังจากห่างหายจากเวทียุโรปไปหลายปี บรรยากาศในสนามเอมิเรตส์ทุกนัดเต็มไปด้วยพลังของผู้ชมและเสียงเชียร์ที่ดังสนั่นจนตั๋วเข้าชมกลายเป็นของหายากที่สุดอย่างหนึ่งในวงการฟุตบอลอังกฤษ ตามรายงานจากสื่ออังกฤษ ระบุว่า ผู้บริหารของสโมสรได้จัดการประชุมภายในหลายครั้งเพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในการขยายความจุของสนาม จากเดิมที่รองรับผู้ชมได้ประมาณ 60,700 ที่นั่ง ให้เพิ่มขึ้นเป็นราว 65,000 ถึง 70,000 ที่นั่ง โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้จากการขายตั๋วเข้าชม การจัดกิจกรรมพิเศษ และการใช้ประโยชน์จากสนามในเชิงพาณิชย์มากขึ้น ทั้งนี้ การขยายสนามยังถือเป็นการตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของแฟนบอลที่รอคอยโอกาสในการได้เข้าชมเกมในสนามจริง ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตั๋วฤดูกาลถูกขายหมดภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมงหลังเปิดจอง

สามค่าย พรีเมียร์ลีก สนใจแทร์ชเตเก้น

สามสโมสรยักษ์ใหญ่จาก พรีเมียร์ลีก เมื่อพูดถึงผู้รักษาประตูที่มีความเสถียรและคุณภาพสูงที่สุดในยุโรปในทศวรรษที่ผ่านมา ชื่อของ มาร์ค-อันเดร แทร์ ชเตเก้น ย่อมอยู่ในลิสต์นั้นอย่างไม่ต้องสงสัย ล่าสุดข่าวใหญ่จากยุโรปได้เปิดเผยว่า มีถึง สามสโมสรยักษ์ใหญ่จากพรีเมียร์ลีก ที่แสดงความสนใจอย่างจริงจังในการคว้าตัวเขาไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์หน้า รายงานจากสื่อหลายสำนักในสเปนและอังกฤษระบุว่า แทร์ชเตเก้น ซึ่งเป็นกำลังหลักของบาร์เซโลนามานานกว่าทศวรรษ กำลังอยู่ในช่วงประเมินอนาคตของตนเอง เนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินของสโมสรยังคงเปราะบาง และมีความเป็นไปได้ที่บาร์เซโลนาอาจพิจารณาปล่อยผู้เล่นรายใหญ่บางคนเพื่อรักษาสมดุลทางงบประมาณ หนึ่งในนั้นอาจรวมถึงนายทวารชาวเยอรมันวัย 33 ปีรายนี้ ซึ่งมีมูลค่าในตลาดนักเตะสูงมากและยังคงได้รับความสนใจจากหลายทีมชั้นนำในอังกฤษ แหล่งข่าววงในเปิดเผยว่า ทีมที่กำลังติดตามสถานการณ์ของแทร์ชเตเก้นอย่างใกล้ชิด ได้แก่ เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทั้งสามสโมสรต่างมีเหตุผลเฉพาะที่ต้องการผู้รักษาประตูคนใหม่ในระยะกลางถึงระยะยาว และชื่อของแทร์ชเตเก้นคือเป้าหมายที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านฝีมือ ประสบการณ์ และความเป็นผู้นำ เริ่มจากเชลซี ทีมดังจากลอนดอนที่กำลังอยู่ในช่วงสร้างทีมใหม่ภายใต้การคุมทีมของเอนโซ มาเรสก้า พวกเขากำลังมองหาผู้รักษาประตูระดับโลกที่สามารถสร้างความมั่นใจให้แนวรับ และช่วยทีมออกบอลจากแดนหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าปัจจุบันจะมีทั้งโรเบิร์ต ซานเชซ และจอร์จ เปโตรวิช สลับกันลงสนาม

คาร์ราเกอร์เชื่อยังไงผีต้องไล่ อาโมริม แน่

เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังระดับตำนานของลิเวอร์พูล และหนึ่งในนักวิเคราะห์ฟุตบอลของเกาะอังกฤษ ล่าสุดเขาได้ออกมาพูดถึง รูเบน อาโมริม ผู้จัดการทีมชาวโปรตุเกสของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่กำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างมหาศาลในถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด โดยคาร์ราเกอร์เชื่อว่า “มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้” ที่อาโมริมจะถูกปลดออกจากตำแหน่ง คำพูดดังกล่าวของคาร์ราเกอร์กลายเป็นประเด็นใหญ่ในวงการลูกหนังอังกฤษ เพราะเขาไม่ใช่เพียงอดีตนักเตะที่พูดเพื่อเรียกกระแส แต่เป็นคนที่มีวิจารณญาณสูงในเชิงแท็กติกและเข้าใจระบบฟุตบอลเป็นอย่างดี เขาเคยกล่าวว่า การแต่งตั้งอาโมริมมาคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็น “การเดิมพันที่กล้าหาญแต่เสี่ยงเกินไป” เพราะแม้จะมีชื่อเสียงจากการสร้างผลงานโดดเด่นกับสปอร์ติง ลิสบอน แต่การย้ายมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีกคือการท้าทายที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งในแง่ความคาดหวังของแฟนบอล การจัดการภายในทีม และแรงกดดันจากสื่อ คาร์ราเกอร์อธิบายว่า ระบบการเล่นที่อาโมริมนำมาใช้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ได้เข้ากับเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของสโมสร ซึ่งมีรากฐานจากฟุตบอลเกมรุกที่เน้นพลังและความเร็วของปีก การใช้ฟูลแบ็กเติมเกม และความหลากหลายในการเข้าทำ เขามองว่าระบบ 3-4-3 ที่อาโมริมถนัดนั้นเหมาะกับทีมที่เน้นการครองบอลในลีกโปรตุเกสมากกว่า แต่ในพรีเมียร์ลีกที่เกมเร็วและมีความแข็งแกร่งทางกายสูง ระบบดังกล่าวกลับกลายเป็นจุดอ่อนมากกว่าจุดแข็ง โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งอย่างลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรืออาร์เซน่อล มีการเพรสซิ่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่า อดีตกองหลังลิเวอร์พูลยังเสริมว่า ปัญหาของอาโมริมไม่ได้อยู่เพียงในแท็กติก

จอร์ดี้ อัลบา ยืนยันว่าจะแขวนสตั๊ดเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลปัจจุบัน

เมื่อพูดถึงชื่อของ จอร์ดี้ อัลบา แฟนฟุตบอลทั่วโลกต่างรู้จักเขาในฐานะหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดของยุคสมัย ไม่ว่าจะด้วยความเร็ว การอ่านเกมที่เฉียบแหลม หรือการประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมในเกมรุกอย่างลงตัว ล่าสุด เขาได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า จะ แขวนสตั๊ดเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลปัจจุบัน ปิดฉากเส้นทางลูกหนังที่ยาวนานกว่า 20 ปี ซึ่งเต็มไปด้วยเกียรติยศ ความสำเร็จ และเรื่องราวที่ตราตรึงในหัวใจของแฟนบอลทั่วโลก ข่าวการตัดสินใจของอัลบาสร้างความสะเทือนใจให้กับวงการฟุตบอลสเปนและแฟนบอลบาร์เซโลนาโดยเฉพาะ เพราะเขาเป็นหนึ่งใน “ลูกหม้อ” ของสโมสรที่เติบโตขึ้นมาจากระบบเยาวชน “ลา มาเซีย” ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมในยุคทองภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอลา และต่อเนื่องมาหลายยุคหลายสมัย อัลบาไม่เพียงเป็นนักเตะที่สร้างชื่อให้กับสโมสร แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความภักดีและความมุ่งมั่นที่ไม่เคยลดลง เขาเริ่มต้นอาชีพค้าแข้งกับบาเลนเซียในปี 2009 หลังจากถูกบาร์เซโลนาปล่อยออกจากอะคาเดมีในวัยเด็กเพราะรูปร่างเล็กเกินไป แต่ด้วยความมานะและความทุ่มเท เขากลับมาพิสูจน์ตัวเองในระดับอาชีพ จนกระทั่งปี 2012 บาร์เซโลนาได้ซื้อตัวเขากลับมาร่วมทีมอีกครั้งด้วยค่าตัวเพียง 14 ล้านยูโร ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในดีลที่คุ้มค่าที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร เพราะตลอดเวลากว่าทศวรรษที่อยู่กับทีม อัลบาคือกำลังสำคัญที่ช่วยให้บาร์เซโลนาครองความยิ่งใหญ่ทั้งในประเทศและในยุโรป ในเส้นทางกับทีมเจ้าบุญทุ่ม เขาลงเล่นไปมากกว่า 450 นัด

มูรินโญ่ เห็นใจ บรูโน่ ลาช หลังโดนปลดจากตำแหน่งไป

โชเซ่ มูรินโญ่ ชื่อที่คอบอลทั่วโลกคุ้นเคยกันดีในฐานะกุนซือระดับตำนาน กลับมาสร้างความคึกคักให้วงการลูกหนังโปรตุเกสอีกครั้ง หลังจากรับงานคุมทีม เบนฟิก้า อย่างเป็นทางการ การย้ายกลับมาสู่บ้านเกิดของเขาไม่ใช่เพียงเรื่องของอาชีพ แต่ยังเป็นเรื่องของความผูกพันและความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับเส้นทางฟุตบอลที่เขาเริ่มต้นไว้นานแล้ว การเข้ามาของมูรินโญ่ถูกจับตามองอย่างมาก ไม่เพียงเพราะชื่อเสียงในอดีตกับการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สองสมัย หรือการพาเชลซี, อินเตอร์ มิลาน และเรอัล มาดริด สร้างยุคทอง แต่ยังเพราะว่าแฟนบอลเบนฟิก้าเชื่อว่า “เดอะ สเปเชียล วัน” จะเป็นคนที่พาทีมกลับไปยืนในจุดสูงสุดทั้งในลีกและเวทียุโรปอีกครั้ง หลังจากที่ทีมต้องพบกับความผิดหวังต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา บรรยากาศวันเปิดตัวเต็มไปด้วยความคึกคัก แฟนบอลหลายหมื่นคนแห่กันมาต้อนรับในสนามเอสตาดิโอ ดา ลุซ เสียงโห่ร้อง “มูรินโญ่” ก้องกังวานไปทั่วอัฒจันทร์ มันสะท้อนถึงความหวัง ความฝัน และพลังศรัทธาที่ถูกฝากไว้บนบ่าของกุนซือวัย 62 ปีรายนี้ อย่างไรก็ตาม การมาของมูรินโญ่ก็เป็นเหมือนการเปิดฉากบทใหม่ที่มาพร้อมการปิดฉากอีกบทหนึ่ง ซึ่งก็คือการจากไปของ บรูโน่ ลาช อดีตกุนซือผู้พาทีมผ่านช่วงเวลาที่ทั้งสวยงามและยากลำบาก โดยมูรินโญ่เองได้แสดงความเห็นใจอย่างเปิดเผยต่อเพื่อนร่วมอาชีพทันทีในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง

สื่อแสดงความเห็นใจ ฮอยลุนด์ หลังกลายเป็นนักเตะล่องหน

เมื่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้เปิดบ้านเอาชนะนาโปลี 2-0 ได้อย่างเหนือชั้น เกมนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงพลังอันแข็งแกร่งของทีมแชมป์เก่า สำหรับ ราสมุส ฮอยลุนด์ กองหน้าดาวรุ่งทีมชาติเดนมาร์กของนาโปลี ที่ถูกจับตามองว่าจะสามารถก้าวขึ้นมาเป็นความหวังใหม่ของทีมได้หรือไม่ ทว่าผลงานกลับตรงกันข้าม เมื่อเขาแทบไม่สามารถสร้างอิทธิพลใด ๆ ให้กับเกมจนถูกสื่ออิตาลีวิจารณ์ว่าเป็น “นักเตะล่องหน” สื่อแดนมะกะโรนีหลายสำนักกลับไม่ได้โจมตีเขาอย่างรุนแรง แต่เลือกที่จะ แสดงความเห็นใจ เพราะเข้าใจถึงความกดดันมหาศาลที่เจ้าตัวต้องเผชิญ ทั้งจากความคาดหวังของแฟนบอล การเจอกับกองหลังระดับโลกของแมนฯ ซิตี้ และระบบการเล่นของทีมที่ยังไม่เข้าที่นัก 2. ราสมุส ฮอยลุนด์: ความหวังใหม่ที่ยังต้องเรียนรู้ ฮอยลุนด์ถูกมองว่าเป็นกองหน้าที่มีอนาคตไกล เขาย้ายมาจากอตาลันต้าและสร้างชื่อในกัลโช่ เซเรีย อา ด้วยสไตล์การเล่นที่ผสมผสานระหว่างความเร็ว ความแข็งแกร่ง และสัญชาตญาณการจบสกอร์ แม้จะเพิ่งมีอายุเพียง 21 ปี แต่เขาถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองหน้าที่น่าจับตามองที่สุดในยุโรป อย่างไรก็ตาม การเล่นในเกมใหญ่ระดับแชมเปี้ยนส์ ลีก คือบททดสอบที่โหดหินกว่าลีกในประเทศหลายเท่า เกมที่เจอกับแมนฯ ซิตี้แสดงให้เห็นว่า ฮอยลุนด์ยังต้องพัฒนาหลายด้าน

แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดศึกบิ๊กทีมยุโรป แย่งคว้า ดูซาน วลาโฮวิช

ตลาดซื้อขายนักเตะกำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และหนึ่งในประเด็นใหญ่ที่แฟนบอลทั่วโลกจับตามองคือการแย่งชิงลายเซ็นของ ดูซาน วลาโฮวิช กองหน้าตัวเป้าทีมชาติเซอร์เบีย ที่กำลังค้าแข้งกับยูเวนตุสในกัลโช่ เซเรีย อา ล่าสุดมีรายงานจากสื่อต่างประเทศว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พร้อมเปิดศึกกับบรรดายักษ์ใหญ่แห่งสเปนทั้ง เรอัล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด และบาร์เซโลน่า เพื่อคว้าตัวหัวหอกรายนี้ การแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่แค่การซื้อขายธรรมดา แต่สะท้อนถึงคุณค่าของวลาโฮวิชในฐานะกองหน้าระดับโลกวัยเพียง 24 ปี ที่ยังมีอนาคตยาวไกลและศักยภาพสูง การที่หลายสโมสรระดับท็อปสนใจแสดงให้เห็นว่าเขาอาจเป็นหนึ่งใน “จิ๊กซอว์” สำคัญที่จะยกระดับทีมใดทีมหนึ่งสู่ความสำเร็จในฤดูกาลหน้า 2. โปรไฟล์ของดูซาน วลาโฮวิช: กองหน้าดาวรุ่งพุ่งแรง วลาโฮวิชแจ้งเกิดในเวทียุโรปจากการเล่นให้ฟิออเรนติน่า ก่อนถูกยูเวนตุสดึงตัวไปร่วมทีมในปี 2022 ด้วยค่าตัวมหาศาล ผลงานการยิงประตูของเขาในกัลโช่ เซเรีย อา ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ถูกจับตามองมากที่สุด จุดเด่นของวลาโฮวิชคือ ความแข็งแกร่ง, การจบสกอร์ที่เฉียบคม และการยืนตำแหน่งที่ชาญฉลาด ด้วยส่วนสูงเกือบ 190

อัลนาสเซอร์ เล็งคว้ากาเซมีโร่ร่วมงานโด้

ตลาดซื้อขายนักเตะยังคงเต็มไปด้วยกระแสที่ทำให้แฟนบอลทั่วโลกจับตามอง หนึ่งในข่าวใหญ่ล่าสุดคือการที่ อัลนาสเซอร์ สโมสรดังจากซาอุดีอาระเบีย กำลังเล็งคว้าตัว คาเซมีโร่ มิดฟิลด์พันธุ์แกร่งชาวบราซิล มาร่วมงานกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ อดีตเพื่อนร่วมทีมเรอัล มาดริด ความเคลื่อนไหวนี้สร้างความตื่นเต้นทันที เนื่องจากมันหมายถึงการกลับมารวมตัวกันของสองนักเตะที่เคยสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกันในยุคทองของ “ราชันชุดขาว” ข่าวลือนี้เริ่มต้นจากสื่อหลายสำนักในยุโรปที่รายงานตรงกันว่า อัลนาสเซอร์พร้อมทุ่มงบมหาศาลเพื่อดึงตัวกองกลางตัวรับที่ยังคงเป็นหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยอมรับว่าเล่นตำแหน่งนี้ได้ดีที่สุดในโลก หากดีลนี้เกิดขึ้นจริง ไม่เพียงแต่จะเป็นการเสริมทัพครั้งสำคัญของสโมสรซาอุฯ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าฟุตบอลตะวันออกกลางกำลังเร่งยกระดับสู่เวทีโลก 2. คาเซมีโร่: กองกลางพันธุ์แกร่งที่ทุกทีมต้องการ คาเซมีโร่คือนักเตะที่สร้างชื่อเสียงจากการเล่นให้กับเรอัล มาดริด โดยเขาเป็นกำลังหลักของทีมในยุคที่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกได้ต่อเนื่อง การอ่านเกม การเข้าสกัดที่เฉียบขาด และความสามารถในการคุมแดนกลางทำให้เขาได้รับฉายาว่า “กำแพงเหล็ก” ของทีม ทุกครั้งที่คู่แข่งพยายามโจมตีตรงกลางสนาม พวกเขามักต้องเจอกับความแข็งแกร่งและความดุดันของมิดฟิลด์รายนี้ แม้ปัจจุบันเขาย้ายไปเล่นให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่ฟอร์มการเล่นยังคงแสดงถึงความเป็นผู้นำ คาเซมีโร่ไม่เพียงเป็นนักเตะที่ทำลายเกมคู่แข่ง แต่ยังมีบทบาทในการเริ่มต้นเกมรุกด้วยการจ่ายบอลที่แม่นยำ ประสบการณ์ในเวทียุโรปทำให้เขามีคุณค่ามหาศาลต่อทีมใดก็ตามที่ได้ตัวไปร่วมงาน การที่อัลนาสเซอร์แสดงความสนใจจึงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะนี่คือผู้เล่นที่จะยกระดับเกมรับและสร้างความมั่นใจให้กับทีมได้ทันที 3. การกลับมารวมตัวกับคริสเตียโน่ โรนัลโด้ สิ่งที่ทำให้ข่าวนี้น่าตื่นเต้นเป็นพิเศษคือความเป็นไปได้ที่คาเซมีโร่จะได้กลับมาร่วมงานกับคริสเตียโน่